ฝึกภาคสนามเขาชนไก่

หลังจากร่ำเรียนวิชาทหารมา 1 ปีเต็มก็ถึงเวลาที่ต้องออกภาคสนามในวิชาภาคปฎิบัติ สำหรับการฝึกในปีนี้เราไปกันที่ “เขาชนไก่” มีกำหนด 5 วันเต็ม โดยการฝึกของครูจากศูนย์การกำลังสำรองที่ จ.กาญจนบุรี มีสภาพภูมิอากาศค่อนข้างร้อนมากในตอนกลางวันและเย็นเยือกในตอนกลางคืน สำหรับเรื่องการฝึกนั้นเน้นตั้งแต่วิชาพื้นฐานของทหารจนถึงวิชาที่เรียกว่า เป็นหัวใจของผู้นำหน่วยขนาดเล็ก อย่างหมู่ปืนเล็ก ซึ่งเมื่อพวกเราเรียนจบการศึกษาชั้นปีที่ 3 คนที่บรรจุในหน่วยรบก็ต้องทำหน้าที่นั้น อีกทั้งเรื่อง การเดินแผนที่เข็มทิศด่านทดสอบสมรรถภาพทางด้านร่างกายและจิตใจต่างๆ รูปขบวนทำการรบทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ผ่านไปจนวันสุดท้ายพวกเรามีความดีใจแบบว่าสุดๆที่จะได้กลับ โรงเรียน เพราะคิดถึง โรงเรียนมากกว่าบ้านซะอีก ระหว่างทางกลับ ร.ร.ก็ได้แวะเที่ยวน้ำตกเอราวัณ........และก็กลับสู่ร.ร.ด้วยความปลอดภัย ครบทุกนาย

ปิดภาคการฝึก

ปิดภาคการฝึกและพิธีรับแหวนรุ่น และวันที่รอคอยอีกวันก็มาถึง นั้นก็คือวันปิดภาคการฝึก วันนี้สำคัญอย่างไร เป็นวันตรวจสอบคุณลักษณะทางทหารที่ได้รับการฝึกมาตลอดเทอม ก่อนที่จะถึงวันปิดภาคการฝึก ช่วงหลังเลิกเรียนนั้นก็มีการฝึกอย่างหนักหน่วง ตั้งแต่หลังเลิกเรียนจนถึง 2 ทุ่ม แถมอยู่ฝึกเสาร์-อาทิตย์อีกต่างหาก เพื่อที่จะทำให้วันปิดภาคการฝึกออกมาได้อย่างสวยงาม เพราะในวันนั้นจะมีผู้บังคับบัญชาของโรงเรียนมาร่วมดูด้วย และก็มีผู้ปกครองบางส่วนด้วย



“วันนี้พวกเอ็งได้เป็นน้องปี 1เต็มตัวแล้ว เพราะพวกเอ็งผ่านพิธีการสวมแหวนรุ่นและปิดภาคการฝึก พี่ขอให้พวกเอ็งรักษาความดีนี้เอาไว้นานๆ ดุจเกลือรักษาความเค็ม เป็นน้องที่ดีของพี่ตลอดไป และในชั้นที่สูงขึ้นก็ควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีของน้องต่อไป..... ”

วันที่ได้เป็นน้องปี 1

วันที่ได้เป็นน้องปี 1 หลังจากที่ นักเรียนใหม่ได้ทำการฝึกและได้อยู่ร่วมชายคามาเป็นเวลา 2 เดือน วันที่รอคอยของพวกเราก็มาถึง เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 51 เป็นวันครู ซึ่งตามธรรมเนียมของ นชท. นักเรียนทั้ง 3 ชั้นปี จะได้เลื่อนชั้นจาก ปี 2 เป็นปี 3 ปี 1 เป็นปี 2 และ นักเรียนใหม่อย่างพวกผมก็ได้เป็นปี 1 เต็มตัว ไม่ต้องบอกเลยว่าพวกผมดีใจแค่ไหน ซึ่งในวันครูนี้เองจะมีการไหว้ครูในตอนเช้าซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธ์ หลังจากไหว้ครูในช่วงเช้าเสร็จ ช่วงบ่ายก็เป็นพิธีการรับน้อง ช่วงรับน้องในใจก็ตื่นเต้นอยู่พอควร เวลาประมาณ 13.00 น. พี่หมวกแดงก็สั่งให้พวกผมจัดแถวและเดินไปยังพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อทำการปฏิญาณตนตามธรรมเนียมที่ปฎิบัติต่อๆกันมานาน และหลังจากนั้น จัดแถวใหม่เตรียมตัวเดินกลับกองนักเรียนโดยการนำขบวนของวงโยธวาทิตซึ่งบรรเลงเพลงอย่างเมามัน และพอเดินไปเรื่อยๆก็มีพี่ๆต่างชั้นปีมามาสั่งมาแกล้ง ด้วยสิ่งของต่างๆนานา เช่น กะปิบ้าง น้ำเกลือบ้าง แต่พวกผมในฐานะรุ่นน้องก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร เพราะมันก็สนุก

การวิ่งรุ่น

การวิ่งรุ่น คืออีกประเพณีหนึ่งของ นชท.เรา การวิ่งรุ่นคืออะไร คือวิ่งรอบพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว การวิ่งรุ่นนั้นจำนวนรอบที่วิ่งเท่ากับรุ่นของตนบวกกับ ชท.อีก 1 รอบ เช่น รุ่น 49 ก็วิ่ง 50 รอบ โดยทำการวิ่งทั้งรุ่น ควบคุมโดยพี่ๆหมวกแดง
ส่วนกำหนดการวิ่งรุ่นของพวกผมนั้นได้ออกกำหนดมาหลายรอบแล้วแต่ไม่ได้วิ่งสักที เพราะติดสภาพอากาศบ้าง ภารกิจ จนสุดท้ายวันนั้นก็มาถึงประมาณปลายเดือน มิถุนายน 2551 วันนั้นอากาศค่อยข้างดี เวลาประมาณตี 4 พี่หมวกแดงเป่ารวมพลหน้าอาคารนอน จัดแถวแล้วพาเดินไปที่ลานบริเวณพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสำเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วทำการสักการะพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นสิริมงลก่อนจะทำการวิ่ง และหลังจากวิ่งไปครบ 50 รอบ สิ่งที่ได้คือ ความภาคภูมิใจที่สามารถทำสำเร็จและได้ก้าวไปผ่านประเพณีที่สืบทอดต่อๆกันมา

นชท. 4 ภาค

นชท.4ภาค
จากบ้านมามาสู่ม่วงขาว พี่น้องเราชาวอาลาดิน มาร่วมแรงร่วมเรียนอยู่กิน แดนอาลาดินถิ่นนี้คือบ้านของเรา คิดถึง คิดถึงแต่พ่อแต่แม่ คิดฮอดแทบแย่ หัวใจมันปวดมันร้าว แต่ก่อนแต่ไร เคยเว่าแต่ภาษาลาว มากินข้าวเจ้า แต่ไม่เคยลืมปลาแดก เคยลืมปลาแดก

คิดถึง คิดถึง ปักษ์ใต้บ้านเรา ปักษ์ใต้บ้านเรา ดินแดนภูเขาที่เราเคยอยู่มานาน คิดถึงหนังลุง โนราห์งานวัดที่บ้าน งานวัดที่บ้าน สนุกสนานอยากบอกว่าหร่อยจังฮู้ เรามาร่วมแรงร่วมกันเป็นหนึ่ง เพื่อไปให้ถึงซึ่งดวงดาว ด้วยเกียรติวินัยและความอดทนของเรา หัวใจของเราคือความสามัคคี สามัคคี